หนูน้อยปิแอร์ ลัมแบรต์ เป็นเด็กสงบเสงี่ยม มีระเบียบ ไม่ค่อยเล่นกับเพื่อนในวัยเดียวกัน แต่ชอบรำพึงคนเดียวมากกว่า หลังจากได้รับศีลมหาสนิทครั้งแรกแล้ว ท่านเริ่มชอบชีวิตนักบวช และคงจะได้รับแรงบันดาลใจจากการอ่านหนังสือ "จำลองแบบพระคริสต์"  ท่านมีประสบการณ์ ด้านชีวิตจิตสูง

และจะเล่าในอีก 30 ปีต่อมา ซึ่งเป็นช่วงแรกของชีวิตธรรมทูต ท่านเขียนไว้ว่า "ข้าพเจ้าย้อนรำลึกได้ว่าเมื่ออายุ 9 ขวบ ข้าพเจ้ามีเจตนาอย่างแรงกล้า ซึ่งเป็นความคิดที่เกิดขึ้น และต่อเนื่องเป็นเวลานานในเมืองที่เป็นบ้านเกิด

วันหนึ่งข้าพเจ้าได้ถามตัวเองว่าจะเลือกเข้าคณะนักบวชคณะใดคณะหนึ่งได้หรือไม่? ข้าพเจ้าไม่ชอบเข้าไปในบ้านนักบวชที่พบ ณ ที่นี้ เพราะรู้สึกว่านักบวชเหล่านั้นไม่ได้ดำเนินชีวิตอย่างครบครันเพียงพอ แต่ใฝ่ฝันว่าจะต้องมีนักบวชอีกคณะหนึ่งที่ถูกใจมาก และคงจะชอบการดำเนินชีวิตนักบวชแบบคณะนักบวชที่ใฝฝันอยู่ในขณะนี้

ชื่อของคณะที่ข้าพเจ้าชอบคือ "ผู้รักไม้กางเขน" เพราะรู้สึกว่าชีวิตของพวกท่านน่าชื่นชมจนอยากจะพบ ณ ที่ใดที่หนึ่ง ข้าพเจ้าจะพยายามจนสุดความสามารถ แม้จะยากลำบากเพียงใดก็ตาม เพื่อเข้าไปอยู่ในบ้านของคณะนี้ แต่ยังไม่พบคณะนี้ในโลก ตั้งแต่นั้นมาข้าพเจ้าก็ไม่สนใจจะเป็นนักบวชคณะอื่น แม้จะให้ความเคารพนักบวชที่ดำเนินชีวิตด้วยความบริสุทธิ์ ในสถาบันที่ข้าพเจ้าถือว่าเป็นที่บ่มเพาะผู้เป็นสมาชิกของสวรรค์ก็ตาม"

ตั้งแต่นั้นมาท่านก็มีความศรัทธาและมีเมตตาจิตมากขึ้น ได้แจกจ่ายเงินส่วนตัวให้กับผู้ตกทุกข์ได้ยาก

ผู้เขียนประวัติของท่านเล่าว่า "ท่านมีจิตใจเมตตาต่อคนยากจน กระทั่งต้องขอขนมปังจากผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายประจำบ้านไปให้คนยากจน ทำให้เขาอารมณ์เสีย แต่ท่านก็พยายามทำให้เขาใจเย็นลง และชักชวนให้เห็นใจคนยากจน โดยใช้ไหวพริบ และคอยช่วยเหลือหลายอย่าง เพื่อจะได้รับสิ่งที่ต้องการจากเขา

ความกระตือรือร้นที่จะเป็นธรรมทูตซึ่งต่อมาจะนำท่านไปจนสุดปลายแผ่นดินโลก เริ่มแสดงออกแบบเด็กๆซื่อๆ ท่านมักตั้งคำถามหรือมีคำตอบเรื่องความศรัทธาที่ทำให้ทุกคนประหลาดใจบ่อยๆ และเมื่ออยู่ในชนบท แทนที่จะไปเล่นกับคนวัยเดียวกัน ท่านกลับชอบเดินเล่นคนเดียว เพื่อจะได้พบลูกชาวนาโดยไม่มีใครเห็นการกระทำนี้ และมักจะถามพวกเขาเรื่องคำสอนที่เรียนมา ปลุกเร้าความสนใจเพื่อให้พวกเขาฟัง คิด และจดจำในสิ่งที่ท่านเล่าให้ฟัง และยังแสดงความใจกว้างต่อพวกเขาด้วย"

 

พลังรักในพระเป็นเจ้า บวกกับการแสวงหาอย่างเอาจริงเอาจังของท่านลัมแบรต์ ตั้งแต่ท่านเล็กๆ ...ทำให้เจตนาแรงกล้านั้นไม่เปลี่ยนแปลงจุดมุ่งหมาย  จากความฝันใฝ่เล็กๆ...กลายเป็นเรื่องมหัศจรรย์ และประวัติศาสตร์มากมาย เพียงถ้อยคำที่ว่า “ข้าพเจ้าจะพยายามจนสุดความสามารถ แม้จะยากลำบากเพียงใดก็ตาม”...น่าคิดนัก...

ควรหรือไม่..หากจะหันกลับมาใส่ใจเด็กๆ เยาวชน ให้แสวงหากระแสเรียกที่แท้จริงของพวกเขา จากแรงจูงใจเล็กๆ..(แม้ดูมันจะเป็นเรื่องเล็กเอาซะจริงๆ) บวกกับการสนับสนุนทางคำภาวนา ดูแล ให้คำแนะนำ และติดตามอย่างใกล้ชิดจากพระสงฆ์ ซิสเตอร์ พ่อ แม่ หรือ ญาติพี่น้อง... พระศาสนจักรของเรา อาจจะเบ่งบานในพระพรแห่งกระแสเรียกในลูกหลานเราอีกมากมายก็เป็นได้

ความพยายามในการทำหน้าที่ที่พระมอบให้ในแต่ละวันสุดความสามารถ...ไม่จำเป็นต้องได้รับความสำเร็จ กำไร ผลประโยชน์ทุกครั้งเสมอไป พระองค์รักในความสม่ำเสมอ และความเมตตาของเราต่างหาก..

ต้องทำให้เจตนารมณ์ของท่านลัมแบรต์ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ในบ้าน ในสังคมที่เราอยู่ "บ่มเพาะผู้เป็นสมาชิกของสวรรค์"  เพื่อสมาชิกในสวรรค์จะไม่ขาดตอน...นี่คือหน้าที่สำคัญของเรา...

 

กลับสู่ "ลูกก้าวตาม...พ่อลัมแบรต์"