วันหนึ่งท่านได้รับเชิญไปร่วมประชุมเพื่อลงชื่อในเอกสารการสมรสของญาติ ที่เมืองรูอัง ท่านแต่งกายเรียบร้อย สะอาดสะอ้านเหมือนเคย และขี่ม้าไป ระหว่างทางม้าเกิดตื่นตระหนก อย่างไม่ทราบสาเหตุ ทำให้ท่านซึ่งไม่ทันระวังตัวกระเด็นตกลงไปในห้วย เสื้อผ้าเปรอะเปื้อนสกปรก เวลานั้นท่านระลึกถึงนักบุญเปาโลตอนตกม้า และพูดกับตัวเองว่า "นี่แหละการโอ้อวดของเจ้า ทำให้เจ้าต้องอับอาย....." ท่านกล้าเข้าไปในที่ประชุมในสภาพนี้ หลังจากชนะใจตัวเองในเรื่องนี้ได้แล้ว ทำให้ท่านสามารถปฏิบัติคุณธรรมภายนอกส่วนใหญ่ได้อย่างง่ายดาย แทบจะไม่รู้สึกว่ายากที่จะปฏิบัติเลย และประทับใจในพระเป็นเจ้าด้วยความกตัญญู ที่พระองค์ประทานพระหรรษทานที่ท่านเพิ่งจะได้รับ จึงตัดสินใจใหม่จะอุทิศตัวแด่พระเป็นเจ้า หรือไม่สงวนอะไรไว้สำหรับตนเองเลย ครั้งหนึ่ง ท่านลัมแบรต์เดินทางไปเข้าเงียบที่เมืองคัง ซึ่งบางคนคิดว่าการเข้าเงียบนี้เป็นเรื่องไม่สมควรและน่าขบขัน ตามที่คุณพ่อบรีซาซีเยร์เล่าไว้ว่า.. คนที่เฉลียวฉลาดและมีชีวิตที่ดีท่านหนึ่ง ส่งคนไปบอกท่านลัมแบรต์ว่าไม่เห็นด้วยกับการปฏิบัติของท่าน คนรับใช้เกิดความรำคาญที่ไม่เห็นท่านกลับบ้าน จึงไปหาและขอลาออก ทำให้ท่านรู้สึกกำลังจะตาย เพราะเครื่องเรือนกำลังถูกปล้น (ตามที่ได้บันทึกไว้ในอนุทิน) ความโดดเดี่ยว ไม่มีคนเข้าใจ การถูกทอดทิ้ง แม้แต่การถูกทรยศ เป็นความรู้สึกแรกที่เกิดขึ้นตามธรรมดา ที่หนักกว่าคือ "ความสงสัย" เป็นสิ่งที่ทดลองท่านอย่างหนัก ..ไม่เป็นที่น่าเชื่อถือ ไม่มีอำนาจ บางทีในไม่ช้าจะไม่มีมิตร...ท่านลังเลใจในการตัดสินใจหันหลังจากโลกอยู่หลายเดือน แต่ที่สุด ท่านละทิ้งความเย่อหยิ่งเพื่อบรรลุถึงการเสียสละ ซึ่งไม่ได้สละเพียงทรัพย์สมบัติด้านวัตถุเท่านั้น แต่ได้สละความสามารถของตนเองเพื่อพระประสงค์ของพระเป็นเจ้าเพียงผู้เดียว ท่านเริ่มลงมือสร้างมนุษย์ผู้เป็น "คนใหม่จากภายใน ซึ่งภายนอกยังเป็นซากมนุษย์เก่า"
|