ซ.บรียิตตา  บุญชอบ  หัวใจ

สัตบุรุษวัดนักบุญฟิลิป ยากอบ หัวไผ่  ชลบุรี

 

           ก๋งและย่าอพยพมาจากเมืองจีน  มาตั้งรกรากอยู่ที่หัวไผ่  อ.พานทอง จ. ชลบุรี  เตี่ยและแม่เป็นคนไทยเชื้อสายจีน

มีอาชีพเกษตรกร  มีบุตรรวมกัน 9 คน  ชาย 4 คน หญิง 5 คน ซิสเตอร์เป็นลูกสาวคนที่ 2 ของครอบครัว ต้องทำงานบ้าน

ทุกอย่าง เช่น หุงข้าว ทำกับข้าว ตักน้ำ หาบน้ำใส่ตุ่ม กวาดบ้าน ถูบ้าน ในตอนเช้า...เมื่อหุงข้าวสุกแล้วหาบข้าวไปส่งเตี่ย

กับแม่และพี่ ๆ น้อง ๆ ที่ท้องนา ที่กำลังไถนา  เก็บหญ้า  หว่านข้าว  ดำนา  กันอยู่ในท้องนา ...เมื่อต้นข้าวเก็บเกี่ยวได้แล้ว

ช่วยเกี่ยวข้าว นวดข้าว ฝัดข้าว แบกข้าวเข้ายุ้ง  ที่บ้านไม่เคยจ้างใครเลย  ลูกๆช่วยกันทำงานทุกคน ...วันเรียนก็ไปเรียน

วันหยุดก็ต้องทำงาน ชีวิตในวัยเด็กทั้งลำบากและสนุก แต่ก็เชื่อว่าพระอวยพรครอบครัวของเรา 

                วันหนึ่ง คุณพ่อกิจ วรศิลป์ เดินไปเที่ยวตามท้องนาเผอิญเห็นครอบครัวของซิสเตอร์กำลังเกี่ยวข้าว ก็ยืนคุยและถามถึงคนโน้นคนนี้

คุณพ่อชี้มือมาทางซิสเตอร์และบอกว่า "ส่งไปเป็นชีซิ"  พอซิสเตอร์ได้ยินก็ฝังใจ อยากเป็นชี  เพราะพี่ชายเตี่ย ได้บวชเป็นพระสงฆ์องค์หนึ่ง

น้องชายเตี่ยก็บวชเป็นพระสงฆ์อีกองค์หนึ่ง  พี่ของแม่ก็ไปบวชเป็นชี  2  คน  คณะคลองเตย 

                 เห็นจากที่ท่านบวชเหล่านั้น มาเยี่ยมบ้าน  มาเยี่ยมพี่น้อง ดูแล้วศรัทธา  ท่านพูดค่อย ๆ เรียบร้อย รู้สึกซาบซึ้ง  รู้สึกชอบ แต่นาน ๆ

จะเห็นท่านสักครั้ง

                 อยู่มาวันหนึ่งคุณพ่อสนิท วรศิลป์  เจ้าอาวาสวัดหัวไผ่  ท่านก็ได้ส่งซิสเตอร์เข้าอารามหลังวันพระจิตเสด็จลงมา ที่นวกสถาน แปดริ้ว

เข้านวกสถานได้ 3 เดือน เตี่ยไม่สบายหนัก ปวดท้องมาก ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลศิริราช  ..อย่างไรก็ไม่หาย และท่านได้สิ้นใจในเวลาต่อมา 

ซิสเตอร์กลับไปงานศพท่าน ช่วงนั้นมีความรู้สึกสงสารแม่มาก ที่ท่านต้องลำบาก เพราะลูก ๆ ก็ยังเล็กกันทุกคน  แต่ก็ตั้งใจสวดขอพระ เพื่อให้

ทุกอย่างเป็นไปตามน้ำพระทัยของพระองค์

                ชีวิตที่อยู่ในนวกสถาน แปดริ้ว  มีเพื่อนรุ่นเดียวกันหลายคน  มีพี่โนวิส  มีพี่ที่รับกางเขนแล้ว  วันธรรมดาพวกเราจะสวดและเข้ามิสซา

ที่นวกสถานของเราเอง ..จะออกไปวัดนอกเฉพาะวันอาทิตย์  และวันฉลองใหญ่ ๆ   พวกเราเดินเข้าแถวเรียงหนึ่งจากเล็กไปหาผู้ใหญ่  ในขณะที่

เดินไป ..ชาวบ้านทั้งผู้ใหญ่ และเด็กๆ จะมาดูพวกเราเดินเข้าวัด  ..ใครเห็นก็ชอบ  ใครเห็นก็ชม..  เพราะดูพวกเราหน้าตาหน้าตาสดชื่น เบิกบาน

สนุกสนาน  เล็ก ๆ น่ารักทุกคน ..เวลาวันหยุดเข้าป่าลากฟืน  ลากทางมะพร้าวแห้งมากองรวมไว้เพื่อทำฟืน  บางวันก็ลงน้ำ ช่วยกันตัดกก หาปลา

พอทานอาหารเย็นแล้ว  ทุกคนจะมาช่วยกันจัดกก  คุยกันสนุกสนานในเวลาทำงาน  มีเวรเข้าครัวหุงข้าว ....ชีวิตในอาราม ต้องเรียนรู้อะไรใหม่ๆ

หลายอย่าง ไม่สบายนัก แต่ก็มีความสุขพอสมควร

               วัน เดือน  ปี ผ่านไปนานพอสมควร จนซิสเตอร์ได้ใส่เสื้อยาวคลุมศีรษะสีขาว เรียกว่า   ขึ้นโนวิส ..โตขึ้นอีกขั้นหนึ่งแล้ว เป็นโนวิสปีเดียว

มีเวรจัดวัด ทำเทียน จัดเตรียมพระแท่นบูชามิสซา  ซักผ้าศักดิ์สิทธิ์   มีเวรก่อขับ  ตีหีบเพลงในวัด ..ในสมัยนั้น มีเวรเข้าครัวทำอาหารเวรละ 2 คน

ใน 1 สัปดาห์  มีผู้ใหญ่มาให้การอบรม  และฝึกหัดตัดเย็บเสื้อผ้า  เรียนรู้ชีวิตนักบวช ถือวินัยโดยเคร่งครัด แต่ก็รู้สึกมีความสุข...

               เมื่อผ่านไป 1 ปี เตรียมตัวที่จะถวายตัวครั้งแรก บวชที่นวกสนามแปดริ้วนั่นเอง ขอบคุณพระที่ดูแลรักษาตัวของซิสเตอร์มาตลอด ให้อยู่

ในกระแสเรียกอย่างสุขใจ เมื่อบวชเสร็จก็ไปประจำที่วัดเทวดา โคกวัด ทันที  โดยมีคุณพ่อซาอูล  เป็นคุณพ่อเจ้าอาวาสในสมัยนั้น  มาร่วมพิธีและ

รอรับไปเลย  แม่ พี่ๆ น้องๆ ของซิสเตอร์  ก็มาร่วมพิธีถวายตัวครั้งแรกนี้ด้วย  รู้สึกสงสารแม่ และพี่ๆน้องๆ เหมือนกัน เพราะยังไม่มีโอกาสร่ำลากัน

ไปประจำอยู่วัดนี้  5  ปี  ซิสเตอร์มีหน้าที่สอนเรียน สอนคำสอน ..เราทำอาหารกันเอง อยู่แบบเรียบๆง่ายๆ  ออกเยี่ยมเยียนชาวบ้าน คนเจ็บคนป่วย

ดูแลวัด ซักเสื้อผ้าคุณพ่อ ซักเสื้อผ้าของวัด ฯลฯ ...ได้กลับไปเข้าเงียบประจำปีร่วมกันกับสมาชิกในคณะทุกๆปี ได้ไปสวดภาวนาด้วยกันกับพี่น้อง

ทั้งคณะ เหมือนได้กลับไปรับพลังให้มั่นคงในกระแสเรียก เพราะซิสเตอร์มีความสุขกับหมู่คณะซิสเตอร์ ..พวกเราไม่มีเงินใช้ส่วนตัว แต่ก็ไม่คิดว่า

ยากลำบาก หรือท้อแท้ใจอะไร เรื่องอาหารการกินไม่อด  เพราะชาวบ้านน้ำใจดีเสมอจะหอบหิ้ว  เอามาฝากอยู่เป็นประจำ ..ซิสเตอร์รู้สึกขอบคุณ

พระเป็นเจ้าเสมอ.. แม้ชาวบ้านไม่ร่ำรวย แต่ก็รักและเป็นกันเองกับซิสเตอร์  พวกเรามีมิตรไมตรีต่อกัน

             ชีวิตของซิสเตอร์จะอยู่ตามวัด มากกว่าอยู่อาราม ตามวัดแต่ละแห่งที่ผู้ใหญ่ให้ไปประจำอยู่นั้น อยู่นานถึง 5-6  ปี อยู่วัดไหน ก็ต้องบอกว่า

สนุกและมีความสุขทั้งนั้น ทั้งซิสเตอร์ที่อยู่ด้วยกัน ดูแล ช่วยเหลือ แบ่งปันกันเสมอ ...ซิสเตอร์สัผัสได้ว่าพระพรของพระมีมากมายจริงๆ เต็มเปี่ยม..

ไปไหนไปกัน เสมือนกับว่า...พวกเราเป็นพี่เป็นน้องกันจริงๆ สวดภาวนาพร้อมกัน มีอะไรก็ช่วยกันทำ มีอะไรกินก็แบ่งกันกิน  ...ชีวิตของซิสเตอร์

ทำงานอยู่ตามวัดผ่านไปปีแล้วปีเล่า มีทุกข์บ้าง สุขบ้าง เป็นเรื่องธรรมดา..จนลืมไปว่า เป็นสาวเมื่อไร..รู้อีกทีก็แก่เสียแล้ว  แต่ที่มั่นใจเป็นที่สุด คือ

ซิสเตอร์ไม่ได้ทำงานคนเดียว สวดขอพละกำลังจากพระทุกวัน พระองค์ไม่เคยทอดทิ้ง แต่อยู่ด้วยเสมอไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันซิสเตอร์ทำงานอยู่

ที่วัดนักบุญยอแซฟ  โรงเรียนยอแซฟพิจิตร อำเภอเมือง  จังหวัดพิจิตร  มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542
 

              "ขอบคุณพระองค์  ที่โปรดอวยพรให้ลูกมีสุขภาพกาย ใจแข็งแรงสมบูรณ์เสมอมา สามารถทำงานที่พระองค์มอบหมายได้ทุกวัน ขอบคุณ 

ที่ให้ลูกเป็นเครื่องมือในการประกาศความรัก ข่าวดี ของพระองค์ แม้ว่าเป็นเพียงกิจการเล็กๆน้อย ....และที่สุดให้ลูกมีความสุขในการอยู่กับพี่น้อง

ในคณะรักกางเขน แห่ง จันทบุรี เหมือนดังเป็นพี่น้องกัน.."

 

- กลับสู่...หน้าหลัก เล่าเรื่องภคินี -