"ลมหายใจเล็กๆ..ที่ซื่อสัตย์"

(แด่..ซิสเตอร์วิไล..... ผู้เป็นที่รักของเรา)

วันนี้ จะเป็นวันแห่งประวัติศาสตร์ที่ทั้งฉัน ทั้งสมาชิกในคณะของฉัน ทั้งเพื่อนฝูงที่รักใคร่ ทั้งญาติพี่น้อง ทั้งลูกศิษย์ลูกหา รวมถึงพระศาสนจักรท้องถิ่นในวงกว้างของสังฆมณฑลจันทบุรี ผู้คนจำนวนมากจะต้องบันทึกความคิด ความรู้สึก ความรัก ความคิดถึง และหลายสิ่งหลายอย่างมากมายไว้ในความทรงจำไปอีกนานแสนนาน เพราะวันนี้ จะเป็นวันที่น้ำตาของการอาลัยอาวรณ์จะหยดและไหลรินออกมาจากดวงตานับร้อยคู่ นับพันคู่ เพราะ ซิสเตอร์อันนา เซเรนา วิไล ภานุพันธ์ อันเป็นที่รักของพวกเรา จะโบกมืออำลา .... อำลาบ้านชั่วคราวหลังนี้ เดินทางไปสู่บ้านแท้ถาวร เพื่อรับความบรมสุขกับองค์พระผู้สร้างที่ได้ทรงตระเตรียมรางวัลไว้แต่นิรันดร์กาล ซิสเตอร์เซเรนาจะกลับบ้านแท้ ซิสเตอร์จะไปแล้ว   ซิสเตอร์จะไปจริงๆ

หลายวันที่ผ่านมา มีเรื่องราวต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย แน่ละ...กับตัวฉันและกับผู้คนรอบข้าง หลายสิ่งหลายอย่างหยุดชะงักลงชั่วขณะหนึ่ง แผนการบางอย่างถูกผลักออกไปก่อน การเดินทางของหลายคนต้องเปลี่ยนเส้นทางอย่างกะทันหัน การนัดหมายแม้ที่สำคัญต้องมามีเหตุผลที่ต้องบอกเลิก แม้แต่เจตนาของคำอธิษฐานภาวนาก็ยังต้องแปรเปลี่ยนไป เมื่อคำว่า “ความตาย” มาเยี่ยมเยือน

ฉันแอบคิดอยู่อย่างเงียบๆ ว่า ทำไมนะ คำๆ นี้ ต้องแวะเวียนมาหาคณะของฉันบ่อยขึ้น ถี่ขึ้น มันเหมือนกับจะถี่มากเกินไปหน่อย (นี่ฉันกำลังต่อว่าพระเจ้าหรือนี่) แม้ฉันเองจะเป็นสมาชิกคนหนึ่งที่มีความสนิทชิดเชื้อกับซิสเตอร์เซเรนา น้อยกว่าสมาชิกอีกหลายๆ คน แต่ฉันก็สนิทปากที่จะเรียกซิสเตอร์เซเรนาว่า น้าเซเรนา เหมือนหลายคนในอารามของเราเรียกกัน ฉันชะเง้อมองหาน้าเซเรนาอยู่บ่อยๆ สมัยที่น้ายังประจำอยู่ที่โรงเรียนยอแซฟวิทยา ท่าใหม่ ฉันไม่ใช่คนอ้อนเก่งสำหรับของฝาก แต่ฉันก็ได้รับทุเรียนกวนปั้นเล็กๆ จากน้าเซเรนาอยู่บ่อยครั้ง แต่ละครั้งจะมีเสียงสำทับว่า ไม่ให้หลายปั้นนะ เพราะอ้วนแล้ว

เวลาโพล้เพล้ของเย็นวันอังคารที่ ๑๗ ตุลาคม ๕๕ เสียงสะอื้นของซิสเตอร์ลัดดา เชยบุญ ดังแผ่วมาทางโทรศัพท์ไร้สาย พร้อมกับประโยคที่กระตุกหัวใจของฉันว่า "ซิสเตอร์วิไลไปแล้ว ไม่มีซิสเตอร์เขาอีกแล้ว ซิสเตอร์เขาทิ้งหนูไปแล้ว..."

คุณแม่โรสลิน ถึงกับเอ่ยปากในการสวดขอพระเมตตาจากองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า ...ถ้าเป็นไปได้ ต้องไม่ก่อนวันจันทร์ที่ ๑๖ ตุลาคม ๕๕ นะ พระองค์ ... เพราะตัวคุณแม่เองยังอยู่ในการเข้าเงียบกับกลุ่มที่สวนเจ็ดริน เชียงใหม่ และสมาชิกกลุ่มสองของเรา ๔๐ คน ก็เพิ่งจะเริ่มการเข้าเงียบประจำปีอยู่ที่ศูนย์คณะคามิลเลียน ลาดกระบัง (ในฐานะสมาชิกของคณะ ฉันเข้าใจได้ถึงความคิด ความรู้สึกต่อหน้าที่ และความรับผิดชอบของคุณแม่ใหญ่ได้ดี)

และแล้ว....น้าเซเรนาก็ใจดีเฉกเช่นที่ท่านเคยเป็น..จนถึงวินาทีสุดท้าย สอดคล้องกับคำพูดทีเล่นทีจริงของคุณหมอที่โรงพยาบาล รวมทั้งคำพูดติดตลกของสมาชิกและญาติมิตรที่เฝ้าแหนอยู่รอบๆเตียงว่า "ซิสเตอร์วิไลรอคุณแม่ ซิสเตอร์วิไลต้องมีอนุญาตสำหรับการเดินทางในครั้งนี้" (ค้างคืนนอกบ้านเพียงคืนเดียว เราที่เป็นนักบวช ยังต้องมีอนุญาตโดยตรงจากคุณแม่เลย แล้วประสาอะไร ซิสเตอร์วิไลจะต้องเดินทางไกล และเป็นการเดินทางไกล...กลับสู่บ้านเที่ยงแท้ถาวร จะไม่มีอนุญาตได้กระไร

ชีวิตหนึ่ง..ที่มีลมหายใจซื่อสัตย์ เมื่อพระเจ้าเรียกกลับคืน ในความเชื่อของคริสตชน ..มันคือความชื่นชมยินดีที่ยิ่งใหญ่ ยิ่งมองย้อนกลับตลอดสองสามวันนี้ ต้องเก็บภาพความทรงจำอีกหลายภาพที่เสมือนเป็นความลับตลอดชีวิตที่ผ่านมาของซิสเตอร์เซเรนา ที่หลายคน...อาจไม่รู้เลยว่า "ความซื่อสัตย์ และใช้ชีวิตเรียบง่ายในชีวิตนักบวชตลอดชีวิตของซิสเตอร์...สร้างความเป็นหนึ่งเดียวกันได้อย่างมากมาย"

เพราะเป็นการกลับมารวมตัวของลูกศิษย์ ลูกหา ที่เคารพรัก และไม่ลืม..ร่องรอยความประทับใจจาก ซ.เซเรนา

เพราะหลายคนกลับใจ....จากความซื่อสัตย์ในการสวดภาวนาของซิสเตอร์   ความใจดี ความเรียบง่าย..

เพราะให้เสมอ.... เพราะ...................... อีกมากมายจริงๆ...

...ภาพจากผู้คนมากมาย หลากหลายที่...ได้มารวม ณ ใต้ร่มอารามแห่งนี้..ช่วงเวลานี้.. เพื่ออย่างน้อย ขอได้ช่วยอะไรเล็กๆน้อย ที่สามารถหยิบจับได้...เพื่อ ซ.วิไล ผู้เป็นที่รัก เป็นครั้งสุดท้าย...

ขณะที่ฉันกำลังนั่งอยู่กับตัวเองหน้าคอมพิวเตอร์ เพื่อสื่อสารกับสวรรค์เบื้องบนและเพื่อนพ้องน้องพี่อยู่นี้ กำลังเป็นช่วงเวลา..ก่อนที่จะถึงพิธีการเคารพศพเป็นครั้งสุดท้าย ในเวลาบ่ายสองโมง ก่อนที่จะเคลื่อนศพสู่อาสนวิหารฯ และนำร่างของซิสเตอร์เซเรนาไปพักผ่อนยังสุสาน ฉันอยากอธิษฐานขอต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า ...ขอพระองค์ได้ทรงชะลอการเรียกขานพี่น้องสมาชิกในคณะของฉันระหว่างช่วงนี้ ให้ห่างๆ ออกไปสักหน่อย เถิดพระเจ้าข้า ถึงแม้ว่า ทุกสิ่งสารพัดในโลกหล้า พระองค์ได้ทรงกำหนดไว้หมดแล้ว แต่พระองค์ก็ทรงมีน้ำพระทัยดีรับฟังคำเสนอวิงวอนในทุกกรณี ฉันขอสงวนเหตุผลของคำวอนขอนี้ แต่แน่ใจว่าพระองค์ทรงทราบดี

และท้ายนี้ ฉันขอฝากความระลึกถึงมากับน้าเซเรนา...ไปยังสมาชิกทั้งหลายในคณะ ผู้ที่เดินทางล่วงหน้ามาอยู่กับพระองค์กันก่อนหน้านี้แล้วทุกท่านด้วย พระเจ้าข้า.

 

--กลับสู่ "บทความ..เก็บตกชีวิต"--