"350 ปี กับวันหวยออก" คุณตาของข้าพเจ้าเป็นคนชอบซื้อหวยทุกต้นเดือนและกลางเดือน และจะเปิดวิทยุเสียงดังในวันนั้น เมื่อข้าพเจ้าเอ่ยถามว่า ทำไมยังคงซื้ออยู่ เพราะว่าถูกกินเป็นประจำ คุณตาก็บอกด้วยอารมณ์ดีว่า มันเป็นวันแห่งความหวัง เป็นวันที่หัวใจได้ตื่นเต้น...

เมื่อกลางเดือนนี้  วันที่ 16 พฤษภาคม ค.ศ.2012  ได้รับจดหมายเวียนจากคุณแม่มหาธิการิณีของคณะ เตือนสมาชิกให้ฟื้นฟูชีวิตรักกางเขนอย่างพิเศษ โอกาสที่ปีนี้ครบรอบ 350 ปี ของพระสังฆราช ลัมแบรต์ เดอลาม็อต ผู้ตั้งคณะได้เดินทางมาถึงกรุงศรีอยุธยาเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ค.ศ.1662 และครบรอบ 50 ปี  การประกาศรับรองการตั้งคณะตามกฎหมายพระศาสนจักร  เมื่อ ค.ศ.1963  จึงเป็นปีที่เรา ภคินีรักกางเขน ผู้เดินตามรอยเท้าของท่านผู้ตั้งคณะ  จะได้ฟื้นฟูชีวิตรักกางเขนตามคำสอนของท่าน  เจริญชีวิตในหนทางที่ท่านวางแบบฉบับไว้ให้ อีกทั้งวันที่ 15 มิถุนายน ของทุกปี เป็นวันระลึกถึงวันมรณภาพของท่าน  เดือนมิถุนายนจึงมีความหมายสำหรับเรานักบวชรักกางเขน และฆราวาสรักกางเขนเป็นพิเศษ   อีกทั้ง ในปฏิทินปีพิธีกรรม ก็มีการสมโภชและฉลองหลายโอกาสด้ว

ข้าพเจ้าพูดกับท่านลัมแบรต์ว่า "แล้วลูกจะเขียนอะไรดีล่ะ"

"เขียนสิ่งที่ได้เขียนในใจของลูกก่อน" ข้าพเจ้ารู้สึกอย่างนั้น และทึกทักเอาว่าเป็นคำตอบของท่านจริงๆ ใช่แล้ว..พ่อลัมแบรต์ของเราเป็นคนน่าพิศวง น่าทึ่ง จากข้อมูลที่คุณพ่อโรเบิร์ต คอสเต M.E.P. ค้นคว้า รวบรวมให้ ข้าพเจ้าพบว่า พระคุณเจ้าลัมแบรต์ มีคุณลักษณะ ดัง
นี้

1. ช่วงเป็นเด็ก "ท่านเป็นคนมีปัญญาดี ชอบการศึกษา มีความจำดี มีวิจารณญาณแม่น นิสัยอ่อนโยน แต่มั่นคง มีความศรัทธา สงบเสงี่ยม ชอบทำทานให้แก่คนยากจน"

2. ช่วงเป็นนักศึกษา - ช่วงทำงาน "ท่านเป็นคนเคร่งครัด สำหรับตนเอง มีความใส่ใจในการพิจารณากระแสเรียกของตน ยิ่งวันยิ่งลดหย่อนในความสนใจด้านวัตถุ ค่อยๆเดินเข้าสู่อุดมการณ์ของท่าน คือ การละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่าง และเริ่มคิดที่จะลาออก จากตำแหน่งที่ปรึกษาในศาล เพื่ออุทิศตนแด่พระเจ้า เพื่อประกอบกิจเมตตา"

3. ช่วงการแสวงหา "ท่านทราบว่า พระเจ้าทรงเรียกท่านอย่างไร...จึงไปเข้าเงียบที่เมืองคาง ออกเงียบแล้วไปแสวงบุญ..เพื่อขอพระหรรษทาน การเรียนรู้จักแผนการของพระเจ้า"

4. ช่วงการเตรียมบวช "เมื่อคณะที่ปรึกษาบอกท่านว่า ประเทศแคนนาดาไม่ใช่สถานที่ที่พระเจ้าต้องการให้ท่านไปตามที่ตกลงไว้แต่แรก ท่านไม่ได้แสดงความเสียใจ ท่านพร้อมจะปฏิบัติทุกสิ่งที่ผู้ใหญ่จะสั่งให้กระทำ และในโอกาสเตรียมตัวเป็นพระสงฆ์ ท่านได้เข้าเงียบ 40 วัน ในมิสซาแรกนั้น ท่านได้ปฏิญาณตนจะเป็นผู้ถวายเครื่องบูชาตลอดกาล เพื่อความรอดของมนุษย์ทั้งหลาย"

5. ท่านกลับไปหาองค์พระผู้เป็นเจ้า : หลังจากการประกาศข่าวดีในเวียดนามและอยุธยาเป็นเวลา 17 ปี พระคุณเจ้าปัลลือ และคุณพ่อเดอ กูรโตแลง ได้สรรเสริญท่านว่า "บุคคลใดก็ตามนอกจากพระคุณเจ้าลัมแบรต์ เดอ เบริธ แล้ว ก็ต้องยอมแพ้ สู้งานไม่ไหว แต่ท่านรู้จักถนอมใจคน มีความพากเพียร และความอดทน โดยเป็นตัวอย่าง ดำรงชีวิตอย่างศักดิ์สิทธิ์ เสมอต้นเสมอปลาย ท่านภาวนาอ้อนวอนอยู่เคียงข้างพระเยซูเจ้า ท่านเป็นดังนกอินทรีที่บินเหนือเมฆ ท่านตื่นเฝ้าอยู่อย่างน่าพิศวง ไม่ละโอกาสที่จะทำประโยชน์"

"พ่อลัมแบรต์ที่รัก...ลูกตั้งใจฟื้นฟูชีวิต ขอให้ลูกมีบุญที่จะมีคุณสมบัติอย่างท่านบ้าง ในการเดินตามพระองค์ ท่ามกลางเพื่อนพี่น้อง ลูกอยากเป็นลูกไม้ ไม่ไกลต้นค่ะ...ลูกขอเริ่มจากสิ่งง่ายๆเหล่านี้..

1. สวดบทภาวนาที่พระคุณเจ้าลัมแบรต์ให้สวดบ่อยๆ "ข้าแต่พระเยซูคริสตเจ้าผู้ถูกตรึง ดวงใจลูกแสวงหาพระองค์แต่ผู้เดียว..." ก่อนนอน 10 ครั้ง

2. มองไปที่กางเขนบ่อยๆ ซึ่งสิ่งที่พระคุณเจ้าลัมแบรต์สอนนี้ ก็ตรงกับ น.เทเรซา แห่ง อาวิลลา บอกกับภคินีของเธอว่า "I only ask you to look at Him" (ฉันขอเพียงให้เธอมองไปที่พระองค์)

3. ไปเยี่ยมคุณป้าที่เก็บขยะขายภายในเดือนมิถุนายนนี้ ได้คุยกันหลายครั้งแล้ว ยังไม่ได้ไปเยี่ยมถึงบ้านสักที

4. จะอ่านหนังสือ พระสังฆราชลัมแบรต์ เดอ ลา ม็อต ที่เขียนโดย คุณฟรังซัวส์ โฟกองเนต์ - บือเซอแลง แปลโดย คุณพ่อโรแบรต์ โกสเต M.E.P.

เขาบอกกันว่า...ถ้าทำสิ่งใดต่อเนื่องกันเป็นเวลา 21 วัน สิ่งนั้นจะกลายเป็นอุปนิสัย ข้าพเจ้าขอให้สิ่งที่จะปฏิบัตินี้เกิดผลเช่นกัน และที่สำคัญให้มีความรู้สึกว่า "ทุกวันเป็นดังวันหวยออก ที่ทำให้หัวใจมีความหวัง ตื่นเต้น"

 

- กลับสู่ ปลายปากกา..สมาชิก -