สหพันธ์คณะภคินีรักกางเขน แห่ง ประเทศไทยและลาว

(Federation of the Lovers of Thailand and Laos)

พระสังฆราช เปโตร ลัมแบรต์ เดอ ลา ม็อต   ผู้ก่อตั้งคณะรักกางเขน

 

                      ประวัติ ความเป็นมา สหพันธ์คณะภคินีรักกางเขน แห่ง ประเทศไทยและลาว

                                   สหพันธ์คณะภคินีรักกางเขนแห่งประเทศไทยและลาว      กำเนิดขึ้นตามคำแนะนำของพระสมณกฤษฎีกา

                      แห่งสังคายนาว่าด้วยการปรับปรุงชีวิตนักบวช   (ประกาศใช้วันที่ 28 ตุลาคม ค.ศ.1965/พ.ศ.2508)   ข้อ 2     ที่

                      เชิญชวนให้นักบวชปรับปรุงคณะให้เข้ากับยุคสมัยอยู่เสมอ   ในขณะเดียวกันก็ยังซื่อสัตย์ต่อมรดกของสถาบันด้วย

                      และข้อ 22 ที่ว่า    “หากโอกาสอำนวย   และสันตะสำนักอนุมัติให้คณะที่มาจากต้นตระกูลเดียวกันมีจิตตารมณ์และ

                      ขนบธรรมเนียมคล้ายกันรวมตัวกันเป็นสหพันธ์”  

                                

                       กลุ่มคณะรักกางเขนในประเทศไทย 3 คณะ และในประเทศลาว 1 คณะ อันได้แก่

                              1.คณะรักกางเขน แห่ง จันทบุรี                             2.คณะรักกางเขน แห่ง อุบลราชธานี

                              3.คณะรักกางเขน แห่ง ท่าแร่                               4.คณะรักกางเขน แห่ง เชียงหวาง (ลาว)

 

                                     ทั้งสี่คณะได้ตอบสนองต่อคำเชื้อเชิญข้างต้นของสันตะสำนัก ทำการฟื้นฟูจิตตารมณ์    และแนวทางชีวิต

                      ฝ่ายจิต ตามคำสอนของผู้ก่อตั้งสถาบันโดยการนำของพระจิตเจ้า        คณะทั้งสี่ได้พบว่าคณะมีรากฐานการกำเนิด

                      มาจากผู้ตั้งคณะคนเดียวกัน  คือ  พระสังฆราชเปโตร ลัมแบรต์ เดอ ลา ม็อต  (Pierre Lambert de la Motte)

                                     และยังได้รับข้อมูลว่า      พี่น้องรักกางเขนในประเทศเวียดนามยอมรับพระสังฆราชลัมแบรต์ฯเป็นผู้ก่อตั้ง

                     สถาบันรักกางเขนเช่นกัน    ในปี ค.ศ.1954/พ.ศ.2497  พระสมณทูตยอห์น ดูลี   ได้จัดให้มีการประชุมคณะนักบวช

                     หญิงในประเทศไทยขึ้นเป็นครั้งแรก  ต่อมาในปี ค.ศ.1960/พ.ศ.2503 สมณทูตยอห์น  กอร์ดอน ได้สนับสนุนนักบวช

                     หญิงให้มีการประชุมร่วมกันอีก ผลจากการประชุมครั้งนี้ทำให้มีการจัดตั้งสภาเจ้าคณะนักบวชหญิงในประเทศไทยขึ้น

                     และหลังจากนั้นมีการประชุมบรรดาเจ้าคณะและมหาธิการิณีของคณะต่าง ๆ เป็นประจำทุกปี

                                    มหาธิการิณีของคณะรักกางเขนทั้ง 4 คณะ ได้พบปะกันในการประชุมนี้ และได้รับทราบว่าคณะรักกางเขน

                     ส่วนมากในประเทศเวียดนาม  ได้ร่วมมือกันในขบวนการอบรมตามจิตตารมณ์ของพระสังฆราชลัมแบรต์ เดอ ลา ม็อต

                     ผู้สถาปนาสถาบัน     และได้ร่วมใช้ธรรมนูญฉบับเดียวกันด้วย         นอกจากร่วมในการประชุมประจำปีดังกล่าวมานี้

                     มหาธิการิณีของคณะรักกางเขนทั้งสี่   ยังได้หาเวลาปรึกษาหารือเพื่อแสวงหาความเป็นไปได้ถึงการร่วมมือกันในด้าน

                     ต่าง ๆอยู่เสมอ

                                   อนึ่ง   ในปัจจุบัน   สหพันธ์ฯมีกิจกรรมหลากหลายสำหรับสมาชิกแต่ละกลุ่มอายุ     ตั้งแต่ระดับกลุ่มผู้ฝึกหัด

                     ไปจนถึงสมาชิกอาวุโสเป็นประจำทุกปี ผลของการรวมตัวและการอบรมร่วมกันเป็นพลังกายใจที่สำคัญสำหรับพวกเรา

                     ลูกรักกางเขน เป็นอย่างมาก  ที่จะทำให้เราพยายามจะเป็นลูกสาวที่ซื่อสัตย์ตามแบบอย่างของ พระสังฆราชลัมแบรต์

                     ในความรักที่ท่านมีต่อพระเยซูคริสตเจ้าผู้ถูกตรึงบนกางเขนตลอดไป